เล่ห์รักร้ายริษยา
ริน สาวน้อยดาราหน้าใหม่ กับผู้กำกับหนุ่มไฟแรงร่ำรวย ความรักที่เธอต้องอดทน อดกลั้น เพื่อเอาชนะใจ เธอจะทำสำเร็จหรือไม่ พี่แทนผุ้มีปมอยู่ในใจ เขาจะเปิดใจให้เธอง่าย ๆ หรือเปล่า หรือเห็นเธอเป็นแค่ของเล่น
ผู้เข้าชมรวม
4,774
ผู้เข้าชมเดือนนี้
7
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ฉันนั่งมองแก้วเหล้าและกองบุหรี่สลับกับมองไปข้างหน้าไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้วที่ปล่อยความคิดล่องลอยอ่อนหวาน
ความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจทุกครั้งที่มองไปที่มุมนั้นความมัวซัวในร้านเหล้าเล็ก ๆ
ในซอกซอยย่านหนึ่งของเมืองหลวง หลายคืนมาแล้วที่ฉันเฝ้ามองเขา เสียงซุบซิบถกเถียงเสียงหัวเราะรอบกายเหมือนแว่วอยู่ริมหู
ดวงตาของฉันจับจ้องไปที่ ชายคนนั้นที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ตอนนี้
ใบหน้างดงามหมดจดขนตางอนอ่อนช้อยจมูกโด่งเป็นสันตรงได้รูปริมฝีปากสีสดแดงระเรื่อ
ผู้ชายหล่อที่สวยหวาน เด็กในร้านถกเถียงกันว่าเขาเป็นผู้หญิงในร่างผู้ชาย
เกมส์พนันเอาสนุกเหล้าและบุหรี่ที่กองอยู่ตรงหน้าฉันในตอนนี้เป็นเครื่องพนันขันต่อเอาสนุก
ฉันยังคงมองไปยังผู้ชายคนนั้นซึ่งนั่งปล่อยอารมณ์ไปกับบรรยากาศรอบตัวไม่สนใจกับใคร
ฉันคิดว่าเขาเป็นผู้ชายที่น่าสนใจเอามากๆ มีเสน่ห์ที่ทำให้ฉันรู้สึกตกหลุมรักเขาเข้าแล้ว ฉันไม่สนว่าจะได้ของพนันไร้สาระอะไรบนโต๊ะนั่น
รู้เพียงว่าผู้ชายคนนั้นดึงดูดความรู้สึกฉันอย่างที่สุด
และกว่าจะรู้ตัวเท้าก็พาฉันเดินเข้าไปหาเหมือนต้องมนต์สะกด..
“สวัสดีค่ะ “ ฉันทักทาย
“สวัสดีครับ” เขายิ้ม กวาดตามองไปรอบตัวฉันก่อนจะยิ้มกว้างมากขึ้นดวงตาพราวพึงพอใจ
“นั่งด้วยกันมั้ยครับ”
ริมฝีปากแย้มยิ้มเห็นไรฟันเรียงเรียบขาวสะอาด ฉันทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามกับเขา
บนโต๊ะมีกับแกล้มกินเล่น สองสามอย่าง เขายิ้มเมื่อเห็นท่าทางขัดเขินของฉันมันคงแสดงออกทางสีหน้า
เพราะอะไรทำให้ฉันกล้าที่จะเดินเข้ามาหาเขา
เป็นเพราะสายตาอมโศกคู่นั้น หรือเพราะฉันเห็นเขามานั่งที่นี่ ด้วยท่าทีเหงาๆ ผู้ชายหน้าหวานสวยเหมือนผู้หญิง
ร้านเหล้าเล็กๆ แห่งนี้ฉันเพิ่งมาทำงานได้ไม่นาน พี่เจ้าของร้านเป็นเพื่อนกับญาติที่เป็นหุ้นส่วน
ฟังดูสับสนไปหน่อยแต่ฉันก็คือลูกจ้างแค่รายได้จากการร้องเพลงคลอเสียงกิต้าร์โปร่ง กิตาร์ที่เก็บออมเงินในที่สุดก็ได้มันมาเป็นเจ้าของ
และมันก็เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ฉันได้ดำรงชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ได้อย่างไม่ขัดสนนัก
“ฉันชื่อระริน ค่ะ” ฉันบอกชื่อของฉัน เป็นการเปิดการสนทนา ในแรกพบเจอ
“โอ๊ะ...ขอโทษครับผมเสียมารยาทจริงยินดีครับ ระริน ผมชื่อแทนครับ” เ
ขายิ้ม น้ำเสียงทุ้มต่ำในคอ มันเป็นเสียงของชายหนุ่ม มันไม่มีทีท่าว่าจะเป็น
ชายอีกประเภทอย่างที่ได้ยิน เด็กในร้านพูดสักนิด
“ริน เห็นคุณ มานั่งประจำที่นี่
เป็นยังไงบ้างคะมีข้อบกพร่องอะไรหรือเปล่า”
ชายหนุ่มตรงหน้ามองฉันยิ้มนิด ๆ
กวาดตามองไปรอบตัวก่อนจะตอบคำถามของฉัน
“เงียบๆ ดีครับ “
เขาเป็นคนพูดน้อยดีจังฉันเริ่มสนใจผู้ชายคนนี้มากขึ้นแล้วซิ
“ผมหมายถึง ผู้คนไม่ค่อยวุ่นวายแล้วก็ไม่หนวกหู “ เขาขยายความขึ้นมาหน่อย
ฉันลอบมองเสี้ยวหน้าละมุน แม้ในความสลัว ก็ยังมองเห็นความเนียนละเอียดของผิวแก้มน่าสัมผัสจนอยากลูบดูสักครั้ง
หน้าฉันร้อนวูบเมื่อปล่อยให้ความรู้สึกเตลิดไปอย่างนั้น
ทั้งที่ผู้ชายตรงหน้าก็ดูมีท่าทีไว้ตัว และระมัดระวังติดจะหยิ่งๆด้วยซ้ำ
“ยินดีค่ะที่ลูกค้าชอบ เอ่อ..รินต้องขึ้นร้องเพลงแล้วค่ะ คุณอยากฟังเพลงไหนพิเศษบ้างมั้ยคะ”
ฉันยิ้มบาง ๆ สอบถามตามมารยาทของการเทคแคร์แขกในร้านตามปกติ
“อ๋อ ครับเพลงอะไรก็ได้ครับ “ เขายิ้ม และขยับตัวเมื่อฉันเอ่ย
รอยยิ้มเป็นมิตรยังแตะแต้มใบหน้านั้น
ฉันลุกขึ้นหันหลังจะก้าวออกมาจากโต๊ะนั่น
ความรู้สึกตรงท้ายทอยลุกชันชัดเลยว่าฉันถูกมองสำรวจตรวจตรา
วันนี้ฉันนุ่งกระโปรงยีนส์สั้นกับเสื้อยืดสีหวาน
มือเรียวของชายหนุ่มแตะเบา ๆ ที่ข้อมือ ฉันก้มมองมือเรียว
ก่อนจะมองหน้า เขาชักมือกลับท่าทางเก้อเขิน
ใบหน้าสวยกระจ่างขึ้นเมื่อเขาแย้มรอยยิ้ม
แต่หัวใจของฉันสั่นไหวรุนแรงเขาช่างมีเสน่ห์ดึงดูดเสียงจริง
“ผมจะรอจนกว่าคุณจะเลิกงาน หากไม่รังเกียจ”
ฉันยิ้มไม่ตอบอะไร แต่หัวใจกลับเต้นระรัว ในความรู้สึกผิดหวังวูบขึ้นมา
เขาหมายถึงอะไรกันนะ
ขณะที่ฉันร้องเพลงก็อดที่จะมองไปยังมุมที่ชายหนุ่มหน้าหวาน
นั่งอยู่ไม่ได้ แม้มองไม่เห็นชัดนัก แต่ก็รู้ว่า เขาจ้องมองฉันอยู่ตลอดเวลา
ในเพลงที่ฉันเลือก ความหมายของเพลงนี้ก็ชัดเจนอยู่แล้ว
ฉันก็ไม่เข้าใจทำไมถึงอยากร้องให้เขาฟังนะ หรือว่า ฉันตกหลุมรัก
ชายหนุ่มคนนี้เข้าแล้ว สิ่งที่เขาเอ่ยปาก
มันทำให้ฉันต้องถอยห่าง..ฉันไม่ได้ต้องการให้เหมือนกับผู้หญิงกลางคืนทั่วไป
ถึงแม้ว่า..มันจะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยกับสิ่งที่คนส่วนมากจะคิดไปในทางนั้น..
หมดเวลาสำหรับฉันในคืนนี้ ตกดึกมันจะเป็นหน้าที่ของวงดนตรี ที่จะขับกล่อมนักท่องราตรีต่อไป
ฉันไม่จำเป็นต้องเดินไปพบกับเขาอีก ไม่แน่ใจว่าคำที่เขาบอกว่า จะรอ
หมายถึงอะไร.. ฉันเก็บกิต้าร์เครื่องมือหากิน
และเดินออกไปนอกร้าน ระหว่างผ่านแขกประจำหลายโต๊ะ
ฉันยิ้มทักทายร่ำรา แขกประจำ ที่คุ้นหน้ากันดี ฉันเหลือบมองไปที่มุมนั้นอีกครั้ง
มีแขกที่ยังไม่กลับนั่งอยู่สองสามคน
ฉันไม่อาจห้ามความรู้สึกที่จะมองหาเขาไม่ได้จริง
เขาคงกลับไปแล้ว ฉันถอนหายใจก็เท่านั้น ความเมามาย ความเหงา หรืออะไรสักอย่าง ล้วนเกินขึ้นได้เสมอ
ยามที่อ่อนแอ ฉันสลัดความคิดถึง แทน ชายหนุ่มที่รู้จักแค่ชื่อ
--------------
ช่วยกดเป็นแฟนคลับให้กำลังใจ น้องริน ด้วยนะคะ
จะทยอยลงให้อ่านแค่ 50% นะคะ
-เปลวมณี-
ผลงานอื่นๆ ของ เปลวมณี ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ เปลวมณี
ความคิดเห็น